วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2558

[OS] ดอกบัว [เฉินผีอาซื่อ]

莲花     
[ ดอกบัว ]    

No paring

Note : สปอยประวัติเก้าสกุลและมโนส่วนตัวในมุมมองเราล้วนๆ ค่ะะะะะะะะ





ยามที่เห็นดอกบัว 
ความรู้สึกสุขสงบและชุ่มชื่นด้วยความบริสุทธิ์ใสนั่นซึมซาบลงในใจอันหยาบกระด้างนี้

มืออันอบอุ่นของอาจารย์แม่ รอยยิ้มอันอ่อนโยนของอาจาย์เยว่หง

เขาไม่เคยลืมเลือนเลย แม้จะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม









สำหรับเขา..... ชีวิตอื่นใดก็ไร้ความหมาย หากขวางอยู่เบื้องหน้า

ดวงตามองเปลวเพลิงที่เผาผลาญตัวเรือนของบ้านหลังหนึ่งด้วยหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ 

เสียงกรีดร้องดังระงมราวกับเสียงหวีดหวิวของวิญญาณร้าย ร่องรอยหยดเลือดที่ไหลอาบสาดกระเซ็นกระเด็นมาถึงข้างนอกตัวบ้าน

บ้านหลังแรกเป็นครอบครัวธรรมดาครอบครัวหนึ่งมี พ่อ แม่ และลูกสาว 
......และเป็นบ้านที่คอยอำนวยความสะดวกให้พรรคพวกของเขา


ยามเช้าแรกเริ่มที่มาถึงมีปรากฏการณ์หิมะแสนน่าตื่นตา 

เมื่อเห็นเขาปักใจในทันทีว่าใต้พื้นดินของหมู่บ้านแห่งนี้ต้องมีบางสิ่งบางอย่างซ่อนตัวอยู่ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ประหลาดนี้ขึ้นมา ฉะนั้นแล้วเพื่อหาจุดลงดินที่เหมาะสมต้องมีพื้นที่ให้พวกเขาทำงาน

ในคราแรกเขาเอ่ยเพียงสั้นๆ ว่าขอเผาบ้านหลังนี้ได้มั้ย?

....แน่นอนว่าคำตอบคือการปฏิเสธ

ลูกเหล็กในมีอถูกดีด ทะยานเข้าเจาะกะโหลกชายหนุ่มเจ้าของบ้านและภรรยาพร้อมกัน  เสียงดังกร๊อบแสนน่าสะพรึงกลัวพร้อมร่างที่อ่อนยวบลงพื้นด้วยดวงตาเบิกค้าง 
ทำให้เด็กหญิงที่นั่งเล่นอยู่แถวนั้นร้องไห้จ้า และนาทีต่อมาตะขอเก้าเล็บก็พุ่งฉีกกระชากและทิ่มแทงลงบนร่างเล็กบางนั้น

พรรคพวกเบื้องหลังมองหน้ากันเลิ่กลั่ก คนเหล่านี้อาจปล้นชิง ฆ่าสังหารผู้คนมากมาย มือเปื้อนเลือดต่างกันไม่กี่มากน้อย แต่น้อยนักที่จะเคยฆ่าคนนอกกรวย 

"จุดไฟ.... เผาให้เกลี้ยง"

เฉินผีอาซื่อสั่ง น้ำเสียงราบเรียบ ไม่มีความยินดียินร้ายใดเลยบนใบหน้าของเขา



หากเมื่อเผามอดจนสิ้นไฟ เหลือเพียงเศษซากปรักพัง ลงดินไปแล้วก็ยังไม่พบสิ่งใดเลย

เขาไม่เชื่อว่าตัวเองจะมองผิดพลาดไป มันต้องมีบางสิ่ง....บางอย่าง..... สัญชาตญาณในกายกู่ร้องดังเตือนเป็นระยะ

บ้านข้างเคียงจึงเป็นลำดับถัดมาที่ถูกเผา และเช่นเดียวกับบ้านหลังแรก ทุกคนในครอบครัวถูกสังหารจนหมดสิ้น 
คราวนี้ก็ไม่พบสิ่งใดอีกเช่นกัน

ชายหนุ่มไม่หมดหวัง...
บ้านที่สาม ที่สี่ ห้าและหกที่ใกล้กันก็เป็นเป้าหมายต่อไป เหตุการณ์ฆ่าล้างบ้านดำเนินไปเรื่อยๆ 

ทุกคนที่ลงมือเริ่มชินชา บางคนเริ่มสนุกกับการสังหารโหดด้วยซ้ำไป กระทั่งเริ่มใช้วิธีทอยลูกเต๋าในการเสี่ยงทายหาบ้านหลังที่จะไปฆ่าในวันนี้

แต่ไม่ใช่กับเฉินผีอาซื่อ.... 
เขาไม่เคยฆ่าคนเพื่อความสนุกสนาน การฆ่าไม่ได้ทำให้เขาเบิกบานหรือสุขสำราญส่วนตัว 

เหตุผลในการกระทำนี้ช่างง่ายดายและน้อยนิดนักในสายตาคนอื่น
คนในหมู่บ้านนี้ ไม่ว่าจะเป็น เด็ก สตรีมีครรภ์ หรือคนชรา ล้วนเกะกะขวางทางตนทั้งหมด จำเป็นต้องไว้ชีวิตด้วยเหรอ?

กาลเวลาผ่านไป.... เมื่อพบว่าคนกว่าครึ่งหมู่บ้านได้ถูกสังหารจนสิ้นแล้ว กลับพบว่าที่ตัวเองคิดผิดพลาดทั้งหมด

ที่นี่ไม่มีสุสานโบราณ ไม่มีสมบัติหรือสิ่งใดเลย


เฉินผีอาซื่อมองกองเถ้าของบ้านเรือน และควันไฟจากการเผาที่ลอยสูงเสียดฟ้าด้วยความสิ้นหวังใกล้เคียงกับความว่างเปล่า


ใช่....ว่างเปล่า
เฉกเช่นเดียวกับชีวิตที่เหลือในหมู่บ้านเกือบครึ่งร้อยที่ถูกส่งตามลงไปปรภพพร้อมกับผู้คนก่อนหน้านี้





ในใจเฝ้าครุ่นคิดว่า หากอาจารย์แม่หรือท่านอาจารย์รู้เข้าจะเป็นอย่างไรกัน?


แต่ไม่มีอีกแล้ว 
ไม่มีอีกแล้วสำหรับคำตอบของคำถามนี้

ยามที่กลับถึงฉางซา เรื่องราวทั้งหมดที่ไหลพาดเข้าหูทำให้เขาเดือดดาลถึงขีดสุด!

แม้สองขาจะวิ่งไหวแค่ไหนก็เหมือนไม่ทันใจนึก
สายฝนตกลงมาบนร่าง เปียกปอนด้วยหยาดน้ำนับล้าน สายลมแรงกรีดผิวจนหนาวแสบ

หากยังเจ็บไม่ถึงเศษเสี้ยว กับสิ่งที่ต้องเผชิญ

ท่านอาจารย์ในชุดไว้ทุกข์... เคียงข้างร่างที่นอนนิ่งปราศจากการเคลื่อนไหวใด

อาจารย์แม่... ตายแล้ว.... 

เขามาไม่ทัน กลับมาไม่ทันกระทั่งดูใจอาจารย์แม่ด้วยซ้ำ 
ขาสองข้างไร้เรี่ยวแรงที่จะหยัดยืนต่อไป ได้แต่ทรุดลงคุกเข่า

รวดร้าวแทบสิ้นใจ
เบื้องหน้าคืออาจารย์พ่อที่ยังคงจับมืออันเย็นเฉียบ.... ฝ่ามือที่บอบบางและเคยอบอุ่นคู่นั้น

เขาจะบุกไปบ้านสกุลจาง ฆ่ามันให้หมดทุกคน... ทุกคนที่เป็นสาเหตุให้อาจารย์แม่ต้องตาย

“คิดได้ก็ห้ามทำ จะตายอีกทั้งตระกูลเพื่ออะไร... แค่คนเดียว ก็มากเกินพอแล้ว…”

เอ้อร์เยว่หงกล่าว คล้ายกับสงบนิ่ง ดวงตางดงามปราศจากน้ำตา
แต่เสียงครวญไห้ปริ่มจะขาดใจจากภายในดังจนเขายังได้ยิน

“ที่นี่ไม่มีใคร…” อย่าทำแบบนี้เลยท่านอาจารย์ ….. 

เฉินผีอาซื่อร้องไห้ กอดขาคนที่เสียใจที่สุด แต่กลับไม่ยอมปล่อยให้น้ำตาหลั่งรินสักหยด


ดอกบัวคู่นั้น
ดอกหนึ่งโรยราไปแล้ว ส่วนอีกหนึ่งนั้นไม่เคยแย้มบานอีกเลย

สายใยบางเบาที่เคยเกาะเกี่ยวกันและกัน ขาดสะบั้นลงไปนับจากวินาทีที่ชีวิตของดอกบัวงามดอกนั้นหลุดลอยไป

สระน้ำที่แต่เดิมยังสะอาดใส เพราะมีดอกบัวคอยเบ่งบานและเฝ้ารักษาไม่ให้โคลนตมกระเจิดกระจาย 

...บัดนี้ขุ่นมัวเสียแล้ว
กลุ่มก้อนตะกอนเคยนอนนิ่งอยู่ใต้พื้นน้ำ ลอยขึ้นเต็มผิวน้ำ




Fin.


Talk Zone : ฮือออออออออออ ไม่รู้จะเอ่ยอะไรดีเลยค่ะะะะะ 

สำหรับเรา ซื่ออากงไม่ใช่คนโหดเหี้ยมหรือเลือดเย็น เพราะมีเหตุผลถึง 'ฆ่า'  ไว่าจะเล็กน้อยยังไง ถ้าขวางทางก็ถือว่าต้องจำกัด เหมือนศูนย์รวมความรักความรู้สึกทั้งหมดของเขามีเหตุผลเป็นของตัวเอง

แต่สำหรับอาจารย์แม่และอาจารย์เยว่หงอยู่นอกเหนือกฎเหล่านี้ เพราะวางไว้สูงกว่านั้น เป็นพ่อแม่ที่รักเคารพบูชาน่ะค่ะ

ถ้าเรียงความคิดที่ตอนนี้สะเปะสะปะในหัวมาต่อรวมกันได้ เราจะมาเขียนฝั่งของอาจารย์แม่กับอาจารย์เยว่หงขยายความค่ะ  ตอนนี้เคว้งมาก แกว่งไปมาเลยทีเดียว ฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น