莲花
[ ดอกบัว ]
No paring
Note : สปอยประวัติเก้าสกุลและมโนส่วนตัวในมุมมองเราล้วนๆ ค่ะะะะะะะะ
ยามที่เห็นดอกบัว
ความรู้สึกสุขสงบและชุ่มชื่นด้วยความบริสุทธิ์ใสนั่นซึมซาบลงในใจอันหยาบกระด้างนี้
มืออันอบอุ่นของอาจารย์แม่ รอยยิ้มอันอ่อนโยนของอาจาย์เยว่หง
เขาไม่เคยลืมเลือนเลย แม้จะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม
สำหรับเขา..... ชีวิตอื่นใดก็ไร้ความหมาย หากขวางอยู่เบื้องหน้า
ดวงตามองเปลวเพลิงที่เผาผลาญตัวเรือนของบ้านหลังหนึ่งด้วยหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
เสียงกรีดร้องดังระงมราวกับเสียงหวีดหวิวของวิญญาณร้าย ร่องรอยหยดเลือดที่ไหลอาบสาดกระเซ็นกระเด็นมาถึงข้างนอกตัวบ้าน
บ้านหลังแรกเป็นครอบครัวธรรมดาครอบครัวหนึ่งมี พ่อ แม่ และลูกสาว
......และเป็นบ้านที่คอยอำนวยความสะดวกให้พรรคพวกของเขา
ยามเช้าแรกเริ่มที่มาถึงมีปรากฏการณ์หิมะแสนน่าตื่นตา
เมื่อเห็นเขาปักใจในทันทีว่าใต้พื้นดินของหมู่บ้านแห่งนี้ต้องมีบางสิ่งบางอย่างซ่อนตัวอยู่ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ประหลาดนี้ขึ้นมา ฉะนั้นแล้วเพื่อหาจุดลงดินที่เหมาะสมต้องมีพื้นที่ให้พวกเขาทำงาน
ในคราแรกเขาเอ่ยเพียงสั้นๆ ว่าขอเผาบ้านหลังนี้ได้มั้ย?
....แน่นอนว่าคำตอบคือการปฏิเสธ
ลูกเหล็กในมีอถูกดีด ทะยานเข้าเจาะกะโหลกชายหนุ่มเจ้าของบ้านและภรรยาพร้อมกัน เสียงดังกร๊อบแสนน่าสะพรึงกลัวพร้อมร่างที่อ่อนยวบลงพื้นด้วยดวงตาเบิกค้าง
ทำให้เด็กหญิงที่นั่งเล่นอยู่แถวนั้นร้องไห้จ้า และนาทีต่อมาตะขอเก้าเล็บก็พุ่งฉีกกระชากและทิ่มแทงลงบนร่างเล็กบางนั้น
พรรคพวกเบื้องหลังมองหน้ากันเลิ่กลั่ก คนเหล่านี้อาจปล้นชิง ฆ่าสังหารผู้คนมากมาย มือเปื้อนเลือดต่างกันไม่กี่มากน้อย แต่น้อยนักที่จะเคยฆ่าคนนอกกรวย
"จุดไฟ.... เผาให้เกลี้ยง"
เฉินผีอาซื่อสั่ง น้ำเสียงราบเรียบ ไม่มีความยินดียินร้ายใดเลยบนใบหน้าของเขา
หากเมื่อเผามอดจนสิ้นไฟ เหลือเพียงเศษซากปรักพัง ลงดินไปแล้วก็ยังไม่พบสิ่งใดเลย
เขาไม่เชื่อว่าตัวเองจะมองผิดพลาดไป มันต้องมีบางสิ่ง....บางอย่าง..... สัญชาตญาณในกายกู่ร้องดังเตือนเป็นระยะ
บ้านข้างเคียงจึงเป็นลำดับถัดมาที่ถูกเผา และเช่นเดียวกับบ้านหลังแรก ทุกคนในครอบครัวถูกสังหารจนหมดสิ้น
คราวนี้ก็ไม่พบสิ่งใดอีกเช่นกัน
ชายหนุ่มไม่หมดหวัง...
บ้านที่สาม ที่สี่ ห้าและหกที่ใกล้กันก็เป็นเป้าหมายต่อไป เหตุการณ์ฆ่าล้างบ้านดำเนินไปเรื่อยๆ
ทุกคนที่ลงมือเริ่มชินชา บางคนเริ่มสนุกกับการสังหารโหดด้วยซ้ำไป กระทั่งเริ่มใช้วิธีทอยลูกเต๋าในการเสี่ยงทายหาบ้านหลังที่จะไปฆ่าในวันนี้
แต่ไม่ใช่กับเฉินผีอาซื่อ....
เขาไม่เคยฆ่าคนเพื่อความสนุกสนาน การฆ่าไม่ได้ทำให้เขาเบิกบานหรือสุขสำราญส่วนตัว
เหตุผลในการกระทำนี้ช่างง่ายดายและน้อยนิดนักในสายตาคนอื่น
คนในหมู่บ้านนี้ ไม่ว่าจะเป็น เด็ก สตรีมีครรภ์ หรือคนชรา ล้วนเกะกะขวางทางตนทั้งหมด จำเป็นต้องไว้ชีวิตด้วยเหรอ?
กาลเวลาผ่านไป.... เมื่อพบว่าคนกว่าครึ่งหมู่บ้านได้ถูกสังหารจนสิ้นแล้ว กลับพบว่าที่ตัวเองคิดผิดพลาดทั้งหมด
ที่นี่ไม่มีสุสานโบราณ ไม่มีสมบัติหรือสิ่งใดเลย
เฉินผีอาซื่อมองกองเถ้าของบ้านเรือน และควันไฟจากการเผาที่ลอยสูงเสียดฟ้าด้วยความสิ้นหวังใกล้เคียงกับความว่างเปล่า
ใช่....ว่างเปล่า
เฉกเช่นเดียวกับชีวิตที่เหลือในหมู่บ้านเกือบครึ่งร้อยที่ถูกส่งตามลงไปปรภพพร้อมกับผู้คนก่อนหน้านี้
ในใจเฝ้าครุ่นคิดว่า หากอาจารย์แม่หรือท่านอาจารย์รู้เข้าจะเป็นอย่างไรกัน?
แต่ไม่มีอีกแล้ว
ไม่มีอีกแล้วสำหรับคำตอบของคำถามนี้
ยามที่กลับถึงฉางซา เรื่องราวทั้งหมดที่ไหลพาดเข้าหูทำให้เขาเดือดดาลถึงขีดสุด!
แม้สองขาจะวิ่งไหวแค่ไหนก็เหมือนไม่ทันใจนึก
สายฝนตกลงมาบนร่าง เปียกปอนด้วยหยาดน้ำนับล้าน สายลมแรงกรีดผิวจนหนาวแสบ
หากยังเจ็บไม่ถึงเศษเสี้ยว กับสิ่งที่ต้องเผชิญ
ท่านอาจารย์ในชุดไว้ทุกข์... เคียงข้างร่างที่นอนนิ่งปราศจากการเคลื่อนไหวใด
อาจารย์แม่... ตายแล้ว....
เขามาไม่ทัน กลับมาไม่ทันกระทั่งดูใจอาจารย์แม่ด้วยซ้ำ
ขาสองข้างไร้เรี่ยวแรงที่จะหยัดยืนต่อไป ได้แต่ทรุดลงคุกเข่า
รวดร้าวแทบสิ้นใจ
เบื้องหน้าคืออาจารย์พ่อที่ยังคงจับมืออันเย็นเฉียบ.... ฝ่ามือที่บอบบางและเคยอบอุ่นคู่นั้น
เขาจะบุกไปบ้านสกุลจาง ฆ่ามันให้หมดทุกคน... ทุกคนที่เป็นสาเหตุให้อาจารย์แม่ต้องตาย
“คิดได้ก็ห้ามทำ จะตายอีกทั้งตระกูลเพื่ออะไร... แค่คนเดียว ก็มากเกินพอแล้ว…”
เอ้อร์เยว่หงกล่าว คล้ายกับสงบนิ่ง ดวงตางดงามปราศจากน้ำตา
แต่เสียงครวญไห้ปริ่มจะขาดใจจากภายในดังจนเขายังได้ยิน
“ที่นี่ไม่มีใคร…” อย่าทำแบบนี้เลยท่านอาจารย์ …..
เฉินผีอาซื่อร้องไห้ กอดขาคนที่เสียใจที่สุด แต่กลับไม่ยอมปล่อยให้น้ำตาหลั่งรินสักหยด
ดอกบัวคู่นั้น
ดอกหนึ่งโรยราไปแล้ว ส่วนอีกหนึ่งนั้นไม่เคยแย้มบานอีกเลย
สายใยบางเบาที่เคยเกาะเกี่ยวกันและกัน ขาดสะบั้นลงไปนับจากวินาทีที่ชีวิตของดอกบัวงามดอกนั้นหลุดลอยไป
สระน้ำที่แต่เดิมยังสะอาดใส เพราะมีดอกบัวคอยเบ่งบานและเฝ้ารักษาไม่ให้โคลนตมกระเจิดกระจาย
...บัดนี้ขุ่นมัวเสียแล้ว
กลุ่มก้อนตะกอนเคยนอนนิ่งอยู่ใต้พื้นน้ำ ลอยขึ้นเต็มผิวน้ำ
Fin.
Talk Zone : ฮือออออออออออ ไม่รู้จะเอ่ยอะไรดีเลยค่ะะะะะ
สำหรับเรา ซื่ออากงไม่ใช่คนโหดเหี้ยมหรือเลือดเย็น เพราะมีเหตุผลถึง 'ฆ่า' ไว่าจะเล็กน้อยยังไง ถ้าขวางทางก็ถือว่าต้องจำกัด เหมือนศูนย์รวมความรักความรู้สึกทั้งหมดของเขามีเหตุผลเป็นของตัวเอง
แต่สำหรับอาจารย์แม่และอาจารย์เยว่หงอยู่นอกเหนือกฎเหล่านี้ เพราะวางไว้สูงกว่านั้น เป็นพ่อแม่ที่รักเคารพบูชาน่ะค่ะ
ถ้าเรียงความคิดที่ตอนนี้สะเปะสะปะในหัวมาต่อรวมกันได้ เราจะมาเขียนฝั่งของอาจารย์แม่กับอาจารย์เยว่หงขยายความค่ะ ตอนนี้เคว้งมาก แกว่งไปมาเลยทีเดียว ฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น