วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2558

[OS] ดอกเบญจมาศ [อู๋เหลาโก่ว]

菊花     
[ ดอกเบญจมาศ ]    


Paring : อู๋เหลาโกว/จางฉี่ซาน

Note : สปอยประวัติเก้าสกุล และเกิดขึ้นจากความมโนเราล้วนๆ ค่ะ ฟฟฟฟฟฟฟ




เบญจมาศคือสัญลักษณ์ของความมั่นคงทางจิตใจ ความสุภาพ และสง่างาม 

หากในขณะเดียวกันก็แสดงถึงความแข็งแกร่งอย่างหาญกล้า


นี่เองที่ทำให้ผมรู้สึกว่าช่างคล้ายคลึงกับใครคนนั้นเหลือเกิน




'ฉางซาจะต้องไม่เหลืออะไรเกี่ยวกับเก้าสกุลสักอย่างเดียว'
'หังโจวเป็นที่ที่ดีสำหรับเริ่มต้นใหม่'

ริมแม่น้ำซ่งฮวาเจียง ใบหน้าหมดจดที่ระบายไปด้วยรอยยิ้มพราวและความรื่นเริงเสมอไม่ยิ้มเลย

'แล้วท่านจางล่ะ?'

ท่ามกลางเสียงของแม่น้ำที่ไหลผ่านไปอย่างเชื่องช้า เสียงหวีดหวิวของสายลมที่พัดพายดูหมองเศร้า

ความเงียบเป็นคำตอบ
เขา.... จะไม่ไปจากฉางซา

“ข้าขอให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไป”

ไม่ถามสักคำด้วยซ้ำว่าผมต้องการหรือเปล่า ดวงตาสีดำสนิท….ลึกล้ำราวกับหลุมที่ไม่อาจหยั่งจ้องมองมาด้วยท่าทีนิ่งสงบ 

….เราสองคนต่างมองกันและกันโดยไร้คำพูด

อู๋เหลาโกวไม่อาจรับรู้….  
เสียงฝีเท้านับสิบนับร้อยใกล้เข้ามาทุกที 
ซันชุ่นติงจึงเป็นฝ่ายเร่งเร้าด้วยการกัดดึงชายขากางเกงโดยแรง ประสาทสัมผัสมันได้กลิ่นของดินปืน 

….และกลิ่นของความตาย


เมื่อออกวิ่งแล้วย่อมไม่แลเหลียวกลับหลัง....
ความตายของผู้คนบนโลกที่โหดร้ายใบนี้ผมรับรู้มานานมากเกินกว่าจะบอกเล่าได้

กลิ่นของซากศพ เสียงของนกแร้ง หมาที่เห่าหอน สองข้างทางมีแต่เลือดและเนื้อที่เน่าเปื่อยผุพังจนประสาทรับรู้แทบตายลงไป

ความโลภมีชัยเหนือความดี ความหิวโหยมีอำนาจเหนือกว่าศีลธรรม

ดวงตาคู่นี้ได้เห็นคนกินเนื้อคน หมากินซากศพ กระทั่งคนที่ขุนหมาด้วยศพให้อ้วนพีแล้วนำมาประทังชีวิตอีกต่อ

นรกใต้ปรภพเป็นเช่นไรอู๋เหลาโก่วไม่อาจล่วงรู้ แต่นรกบนดินนั่นได้เห็นจนชาชินเสียแล้ว

เพราะแท้ที่จริงแล้ว
'สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าภูตผีก็คือใจคน'





สุดท้ายแล้ว... 
เขาก็เหลือเพียงความว่างเปล่าและความเดี่ยวดาย

มือปล่อยวางดาบที่หนักอึ้ง ภาระหน้าที่ทั้งมวลจบลงแล้ว บุญคุณความแค้นแต่ก่อนเก่าก็เช่นกัน

สิ่งที่จะตามติดหลังเปลือกตาคู่นี้ลงไปยมโลกคือความอ่อนโยนที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับมา

'ข้า...จะมีชีวิตอยู่เพื่อท่าน'

กลีบดอกเบญจมาศร่วงโรยราวพรมปูทาบบนแผ่นดิน
สีเหลืองทองสวยสง่างามถูกเหยียบขยี้ด้วยฝ่าเท้าและชอกช้ำด้วยเลือด

สายฝนห่าใหญ่ชะล้างมวลบุปผางามอย่างเงียบงัน

หนึ่งนั้นคือดวงตากร้าวแกร่งยังไม่มอดดับ

เครื่องแต่งกายเปียกชุ่ม เลือดปะปนไปกับน้ำฝนจนแยกไม่ออก ปลายนิ้วเริ่มเย็นเฉียบ ผิวหนังเริ่มด้านชาไร้ความรู้สึก


เฉกเช่นชีวิตที่ปลิดปลิวไปดั่งกลีบดอกไม้ในสายลม



Fin.


Talk Zone : 

ดราม่ารุ่นปู่นีช่างปวดใจเหลือเกินค่ะ //ซับ
ปลายทางของแต่ละคู่... ไม่มีคู่ไหนเลยที่จบอย่างมีความสุข  บทสรุปสุดท้ายที่รอมีแต่เลือดและความเศร้าทั้งนั้นเลยค่ะ 

จริงๆ อยากเขียนอะไรใสๆ เบาๆ ไม่ดราม่า แต่ว่าอีกใจก็อยากบอกเล่ามุมมองวาระสุดท้ายท่านจางดู เลยออกมาแบบนี้ซะงั้นค่ะ 

เรายังไม่เก่งเท่าไหร่ ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวกับวันช็อตแสนเอาแต่ใจ(และอึนๆ)เรื่องนี้ด้วยนะคะ ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น