วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2558

[SF] Trade [51][one]

Trade

: Fandom :

Daomu Biji (盜墓筆記)



: Rate :

PG-15

: Pairing :

吴老狗 / 张启山
อู๋เหลาโก่ว / จางฉี่ซาน





: Note :

ความเพ้อหลังอ่านเรื่องเก้าสกุลใหญ่ค่ะ
บน-ระนาบ-ล่าง แหม่ยยยย์
ปล.มีซื่ออากงเป็นดารารับเชิญค่ะ พิศวาสส่วนตัวล้วนๆ 5555555+







อู๋เหล่าโกวไม่ใช่คนหน้าตาดี 
แต่ก็จัดได้ว่าเป็นชายหนุ่มหน้าตาหมดจดสดใสราวหนุ่มน้อยคนหนึ่ง

รอยยิ้มอ่อนโยนซื่อบริสุทธิ์นั่นหลอกลวงพอๆ กับหน้าตา

งานคว่ำกรวยไม่ใช่งานขายของเล่น ชีวิตที่คลุกคลีในดงเดนคนสอนอะไรให้เขามากมาย และหนึ่งในนั้นคือการใส่หน้ากาก

ประสาทรับกลิ่นเสียหายไปนานแล้ว 

เถ้าแก่สามแห่งสกุลอู๋ไม่เคยได้กลิ่นอะไรมาเป็นสิบปี นั่นคือเหตุผลที่ผมฝึกสุนัขให้ดมกลิ่นแทนตัวเอง

ประสบความสำเร็จจนน่าตกใจ ผมมีชื่อเสียงและเงินทองมากมาย มากพอที่จะซื้อหาความสุขและสหาย การคีบลามะในแต่ละครั้งมีคนเป็นมือเท้าให้ไม่น้อย

จริงใจบ้าง ประโยชน์ตรงกันบ้าง คละเคล้ากันไป เฉินผีอาซื่อเองก็เป็นหนึ่งในนั้น พิเศษหน่อยตรงที่ฝีไม้ลายมือพอกัน อยู่ในเก้าสกุลใหญ่เช่นกัน

เฉินผีอาซื่อ เร็ว เด็ดขาด อู๋เหล่าโกว เจ้าเล่ห์ พราวแพรว
แต่ที่ไม่ต่างกันคือเขาทั้งคู่ล้วนปล้นชิงและฆ่าคนได้ไม่กะพริบตา

โจรก็คือโจรเป็นความจริงที่ไม่แปรเปลี่ยน
ใช้ชีวิตเยี่ยงสัตว์กระหายเลือด ตรงข้ามกับใครบางคนลิบลับ

พ่อพระใหญ่จาง จางฉี่ซัน ท่านนายพลแห่งสกุลจาง
ร่างสูงตรง แข็งแกร่ง ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย นิ่งสนิทราวรูปปั้น แต่เป็นรูปปั้นที่ทำออกมาดึงดูดใจซะ ลำพังแต่รูปกายภายนอกเด่นจนไม่รู้จะเด่นยังไง

ผมผิวปากหวืด เดาะลิ้นอย่างอดใจกวนไม่อยู่ ดวงตาคู่คมที่ประสานจ้องมา เขม็งมองไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย
“ท่านนายพลมีธุระอะไรกับโจรขุดสุสานกันครับ”

อื้อหือ พ่อล่อมาทั้งชุดเครื่องแบบเต็มยศซะด้วย ถ้าในนี้มีสาวๆ อยู่คงกรี๊ดกันสลบแหง เสียแต่ดันมีแต่ชายฉกรรจ์กักขฬะล่ะนะ

“ฉันต้องการให้นายช่วย”
ไม่พูดพล่ามทำเพลง ตรงยิ่งกว่าลูกศรซะอีก น้ำเสียงจริงจังและท่าทีขึงขังนั่นสร้างเสียงหัวเราะครืน

เฉินผีอาซื่อที่นั่งไกลออกไปหัวเราะท้องขัดท้องแข็งฟุบลงไป ทุบโต๊ะปังๆ จนผมเหล่มอง แต่ก็ได้เพียงครู่เดียว เพราะคนตรงหน้าดึงดูดสายตาเสียยิ่งกว่าอะไร

“ยังมีสิ่งใดที่ท่านนายพลต้องการความช่วยเหลือจากผมอีกเหรอครับ ใต้ฟ้านี้อะไรก็คงไม่เกินมือพ่อพระใหญ่จางกระมัง”

นัยน์ตาคมดุกร้าวกับวาจาหยอกเย้า

“ธุระของเก้าสกุล” ง่ายๆ สั้นๆ แต่บาดลึก นิ้วคลึงขมับอย่างนึกปวดหัวขึ้นมารำไร ท่าจะเป็นงานหินซะยิ่งกว่าคว่ำกรวยอวบๆ ของบรรพกษัตริย์แหงงานนี้

"ไอ้ผมมันพวกไม่มีหน้ามีตา จะให้ขยับตัวทำอะไรก็ต้องมีของมีค่ามีราคา"
"สมบัติในนั้น เป็นของพวกนาย หยิบฉวยอะไรได้ก็เอาไป"

"ใจกว้างสมเป็น 'พ่อพระ' แต่คว่ำกรวยไม่เอาสมบัติ ท่านนายพลต้องการอะไรล่ะครับ"
"ไม่ใช่เรื่องของนาย"

อู๋เหล่าโกวยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มประหลาดที่ยากเกินกว่าจะคาดความนัย

“แล้วถ้าผมปฏิเสธ?”
“นายไม่มีสิทธิ์ในการทำแบบนั้น”

อืม... เผด็จการสมเป็นทหาร

ร่างสูงโปร่งหยัดตัวขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาที่ประมาณค่าประเมินของมานับไม่ถ้วนหรี่ตามองอย่างพิจารณา
จางฉี่ซันสูงกว่าเขาเล็กน้อย ตัวหนากว่านิด

แต่แน่นอนผมคล่องตัวกว่าอยู่แล้ว
ใบหน้าหล่อเหลานิ่งเฉยปานรูปปั้นหิน ผิวสีน้ำตาลอ่อน ผิดกับผิวขาวซีดเพราะอยู่แต่ในที่มืดเช่นผม

ความคิด ร้ายแล่นแว่บขึ้นมาในหัว 

“สมบัติน่ะ... ผมได้มาเยอะแล้ว แต่คนที่ยิ่งกว่าสมบัติไม่เคยเจอ”

ใบหน้าหมดจดระบายยิ้มอ่อนโยนราวกับพิษร้าย

“สนใจเล่นกับผมสักคืนมั้ยล่ะ? ท่านนายพล”

ถ้าปฏิเสธ ผมก็แค่เปลี่ยนเรื่อง 
ส่วนถ้าตกลง... ผมก็ยิ่งมีแต่ได้ไม่มีเสีย

ดวงตาสองคู่จ้องมองกันและกัน ในชั่วพริบตา หัวคิ้วเหยียดตรงนั่นก็ขมวดหม่น คงเพิ่งรับรู้ถึงความนัยในประโยคได้

น่าสนุก... น่าสนุกจริงๆ









สหายอู๋มีนิสัยประหลาดอย่างหนึ่ง

ก็อย่างที่รู้ๆ กันว่าอาชีพโจร... โดยเฉพาะโจรขุดสุสานนี่มันงานสายปกติซะเมื่อไหร่

ไอ้เรื่องจะมีครอบครัวหรือคนรักให้เป็นห่วงผูกคอนั่นไม่ค่อยจะมีคนทำนัก มักจะเสพสุขจากผู้หญิงที่ซื้อหาตามร้านเหล้าได้ซะมากกว่า

แต่สหายอู๋กลับตรงข้าม มักชอบเกี้ยวพาราสีสาวน้อยสาวใหญ่จนมีคนรักทั่วไปหมด กระทั่งหญิงโสเภณียังชอบใจทอดกายให้โดยไม่ต้องมีราคาค่างวดจ่าย

หน้าตาหมดจด นิสัยถ่อมตัว พูดจาอ้อล้อเก่งไม่มีใครเกิน

และรอยยิ้ม 'ร้าย' เดียงสาดูราวกับเด็กหนุ่มแสนซื่อ

ตกเหยื่อได้เยอะนักแล

ที่สุดคือ... เป้าหมายเจ้าตัวมักเป็นดอกฟ้าคนงามของบ้านเจ้าขุนมูลนายหรือพ่อค้าวานิช

นัยว่าสาวน้อยแสนสวย ว่าง่ายนั่นไม่ต้องรสนิยม

หมอนั่นมันพวกชอบเด็ดดอกฟ้าผู้มีหนามแหลมคม เห็นว่าเด็ดดมชมโฉมยากสุดมือคว้า พอได้มาครองยิ่งชื่นใจ

คนล่าสุดก็แม่นางฮั่วเซียนกูแห่งสกุลฮั่ว สตรีสาวผู้สวยร้อนแรงและดุราวนางพญา

ไม่สิ... คนล่าสุดจริงๆ น่าจะเป็นแขกที่เพิ่งเดินจากไปวันนั้นมากกว่า

เจ้าคนมากเล่ห์ยิ้มร่า อารมณ์ดีจนเลี้ยงเหล้าคนทั้งร้าน เมื่อเห็นใบหน้าเฉยชาราวรูปสลักนั่นโกรธขึ้งจนเดินชายเสื้อโค้ทปลิวจากไปอย่างไม่เหลียวมอง

"เฉินผี นายมีอะไรจะพูดกับฉันหรือเปล่า?"

จอกเหล้าเเกว่งไปมาในระยะสายตา แทบกระฉอกใส่หน้า

"รู้ๆ กันอยู่น่า เหลาอู๋"

ชนจอกร่ำสุรา ปล้นชิง ฆ่าฟันมาด้วยกัน จะเรียกว่าผีเห็นผีก็ได้

"วันนี้แหละ... เดี๋ยวก็มา"

อู๋เหลาโก่วยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนระคนเอ็นดู ราวกับคิดถึงลูกหลานก็ไม่ปาน

"มั่นใจขนาดนั้น?"
"งานร่วมกับทหาร แถมยังเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับเก้าสกุลใหญ่ นอกจากฉันกับนาย ใครจะกล้าเอาคอไปพาดเขียง"

"แถมเป็นเขียงที่มีที่สับคอเป็นดาบของ 'พ่อพระใหญ่จาง' อีก..."
"นายคิดจะเดินหมากตานี้ยังไง?"

อู๋เหลาโก่วยิ้ม พลางโยนกระดูกที่ยังมีเศษเนื้อเล็กน้อยให้หมาเลี้ยงแทะเล่น

"ตามน้ำไง นายก็ได้ยินว่าหยิบฉวยอะไรก็เป็นของเรา กำไรเห็นๆ"

เฉินผีอาซื่อหรี่ตามอง คันมืออยากดีดลูกเหล็กใส่ตาเรียวยาวของเจ้าคนหน้าใสใจคดตรงหน้าขึ้นมาครามครัน

"นายไม่ได้เล็งสมบัติเหลาอู๋...."
"รางวัลใหญ่ที่เก็บเกี่ยวก่อนเริ่มงาน เขาเรียกว่าแรงจูงใจสหาย"

ประตูร้านเหล้าเปิดออก เสียงเซ็งแซ่เงียบกริบในบัดดล

ร่างสูงตรง สง่างามในชุดที่ดูลำลองกว่าที่เห็นครั้งก่อนเป็นเป้าร่วมสายตาในทันที 

หากเจ้าตัวไม่แยแสแต่อย่างใด เดินตรงมาที่โต๊ะพวกเขาราวกับหมายตาไว้แล้ว

อู๋เหลาโก่วยิ้ม เฉินผีอาซื่อยักไหล่

ร่างเพรียวสมส่วนในเสื้อผ้าพื้นๆ ที่รุ่มร่ามไม่เรียบร้อย ลุกหลบฉากไป

หูแว่วเสียงหัวเราะขบขันของสหายและเสียงครืดคราดของเก้าอี้ที่ลากไปกับพื้น

"สักจอกมั้ยครับ?"



TBC.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น